‘ฉายแสงฯ’ ผนึก ‘เดอะโกสท์’ เจ้าพ่อเรื่องผี ปั้นเรื่องเล่าให้กลายเป็นหนังในโรง

‘ฉายแสงฯ’ ผนึก ‘เดอะโกสท์’ เจ้าพ่อเรื่องผี ปั้นเรื่องเล่าให้กลายเป็นหนังในโรง รับอุตสาหกรรมภาพยนต์ไทย 2,500 ล้านบาท โตแรงแซงหน้าฮอลลีวูด

นายชัยวัฒน์ มิ่งไม้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ จำกัด ผู้วางแผนการตลาดและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมหนังไทยในปีที่ผ่านมามีมูลค่าถึง 2,500 ล้านบาท โดยเติบโตจากหนังผี สยองขวัญ สวนทางหนังฮอลลีวูดที่เริ่มซบเซา เห็นได้จากช่วง 2-3 ปีนี้กระแสหนังไทยได้รับความนิยมทั้งเรื่องธี่หยด สัปเหร่อ ที่ทำรายได้สูงกว่า 800 ล้านบาท และพบว่าทุกครั้งที่มีหนังผีมักเกิดเป็นกระแสฮือฮาตลอด

ทั้งนี้ บริษัทจึงจับมือร่วมกับ เดอะโกสท์เรดิโอ แพลตฟอร์มเล่าเรื่องผีอันดับ 1 ของไทย นำเรื่องเล่าดังกล่าวมาสร้างเป็นหนังภาพยนตร์ เพื่อให้ได้เห็นเป็นภาพจริง โดยคาดว่าจากความร่วมมือดังกล่าวจะมีหนังออกมาฉายในโรงภาพยนตร์ปีละอย่างน้อย 1 เรื่อง เบื้องต้นมีหนังแนวสยองขวัญเรื่อง “ข้างบ้าน” ออกมาเป็นเรื่องแรกช่วงไตรมาส3 ปีนี้ จากเงินลงทุนประมาณ 25-30 ล้านบาท เพื่อจับกลุ่มคนไทย อาทิ เจนแซดและเจนวาย และจากนั้นจะนำไปออกอากาศในช่องทางสตรีมมิ่งต่อไป

นายวัชรพล ฝึกใจดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ โกสท์ เรดิโอ จำกัด หรือ แพลตฟอร์มเล่าเรื่องผีเดอะ โกสท์ กล่าวว่า การเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องแรก “ข้างบ้าน” จะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ใช่เพียงแค่ความนิยมของเรื่องเล่าเท่านั้น แม้บางเรื่องจะมีกระแสแรง ยอดวิวถล่มทลายหรือได้รับความนิยมสูงสุด แต่เป็นเพียง ช่วงสั้นๆ ที่ไม่สามารถขยายเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจได้ ก็อาจไม่เหมาะสมสำหรับการสร้างเป็นภาพยนตร์ ดังนั้นจึงได้ใช้ระยะเวลาในการพิจารณาจากองค์ประกอบสำคัญเพื่อให้ข้างบ้านเป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนวัฒนธรรมและเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขวาง

ขณะที่พฤติกรรมคนไทยปัจจุบันเริ่มเปิดฟังเรื่องเล่าจากโซเชียลมีเดียก่อนนอนเพิ่มมากขึ้น ทำให้ปีนี้มีผู้เข้ามารับฟังการเล่าเรื่องผีในช่องทางเดอะโกสท์มากถึงคืนละ 1 แสนคน เพิ่มจากช่วง 2-3 ปีก่อนที่มีผู้ฟังเพียง 3 หมื่นคนโดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่เริ่มเปิดให้เด็ก ๆฟังเพื่อสอนเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ เพิ่มขึ้นถึง 30% จากจำนวนยอดผู้ติดตามที่มีทั้งหมด 6.4 ล้านราย ส่วนกลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนทำงานมีถึง 50% โดยส่วนใหญ่สูงขึ้นจากช่วงโควิด

“คนในยุคโซเชียลปัจจุบันเริ่มไม่ยึดติดว่าเรื่องผีเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องที่แต่งขึ้น แต่ต้องการความสนุก มันส์ ฮ่า และลุ้นว่าผีจะมีหลอกตอนไหน ขณะเดียวกันเสียงในการเล่าจะต้องนิ่มๆ ซึ่งเมื่อฟังไปเรื่อยจึงทำให้หลับได้ง่าย ทำให้ส่วนใหญ่คนเปิดไม่ได้ฟัง คนฟังไม่ได้เปิด”